เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ กรุงคิกาลี ประเทศรวันดา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เข้าร่วมการประชุมใหญ่ฟีฟ่า ครั้งที่ 73 โดยการประชุมในครั้งนี้ นำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ และ ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายสื่อสารองค์กร มีวาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้คือการสรรหา ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติคนใหม่ ซึ่ง จานนี อินฟานติโน ได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 เนื่องจากไม่มีผู้สมัครแข่งขัน
นอกจากนี้ยังมีวาระเกี่ยวกับนโยบายทางเทคนิค นำเสนอโดย อาเซน เวนเกอร์ ประธานเทคนิคของฟีฟ่า ให้มีการจัดฟุตบอลโลกเยาวชนในทุกปี เพื่อให้ผู้เล่นมีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องรอเว้นข้ามปี
ขณะที่ โครงการที่สำคัญของฟีฟ่าต่อจากนี้คือ FIFA Talent Development Scheme ซึ่งสมาคมฯ ได้เริ่มต้นไปแล้ว จากความร่วมมือกับ กกท. และกองทุนพัฒนากีฬาชาติ ภายใต้ชื่อโครงการ Grow Together โดยมีการดำเนินการในปีแรกที่จะยกระดับพัฒนาเยาวชนตั้งแต่ 10-17 ปี ของประเทศไทยต่อไป
ทางด้าน ปิแอร์ ลุยจิ คอเลียน่า ประธานผู้ตัดสินได้แจ้งว่า ตอนนี้มี 51 ประเทศ ใช้ระบบ VAR จาก 211 ประเทศ โดยในอนาคตจะพยายามให้สมาคมฯ ต่างๆ เข้าถึงเทคโนโลยีให้มากกว่านี้ โดยจะแนะนำระบบ VAR Lite และ Video Support มาใช้กับประเทศสมาชิกที่ยังไม่พร้อมกับระบบ VAR เต็มรูปแบบ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และลดจำนวนคนและจำนวนกล้องลง
นอกจากนี้ทางนายกสมาคมฯ ยังได้พบปะ และหารือกับ ตัวแทนจากสมาคมฯ ชาติต่างๆ เพื่อความร่วมมือและเจรจาโอกาสจัดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ช่วงปฏิทินฟีฟ่า เดย์
อนึ่ง ทางสมาคมฯ ยังได้พูดคุยกับ ตัวแทนจาก สมาคมฟุตบอล เอสโตเนีย และ จอร์เจีย หลังได้รับเชิญไปแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องฟีฟ่า เดย์ ช่วงเดือนตุลาคม อีกด้วย
ขอบคุณข่าวจาก https://siamrath.co.th/n/431148
